หุ้น 6 ประเภท ของ ปีเตอร์ ลินซ์ หุ้นแบบไหนน่าลงทุน

หากกล่าวถึง ปีเตอร์ ลินซ์ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก อดีตผู้จัดการกองทุนมือหนึ่งของโลก เป็นผู้แชร์แนวคิดการแบ่งหุ้นออกเป็น 6 ชนิดไว้ในหนังสือ One Up On Wall Street ซึ่งปัจจุบันถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นเซียนหุ้น หรือ ใครก็ตามก็ใช้แนวคิดนี้ในการแบ่งหุ้นเช่นกัน

ก่อนจะมาลงรายละเอียด ขอพาเพื่อนๆ มารู้จักกับ ปีเตอร์ ลินซ์ กันสักเล็กน้อย ปีเตอร์ ลินซ์ เป็นผู้บริหารกองทุนมาเจลลัน ที่สามารถทำผลตอบแทนทบต้นอยู่ที่ 29.2% ต่อปี ติดต่อกันถึง 13 ปี หากเพื่อนๆนึกไม่ออกว่ามากน้อยขนาดไหน สมมติเพื่อนๆ ฝากเงินกับกองทุนมาเจลลัน 1 ล้านบาท 13 ปีต่อมาเงินฝากของเพื่อนๆ จะกลายเป็น 27.9 ล้านบาท นั่นเอง โดยหุ้น 6 ประเภาทมีดังนี้

1. หุ้นเติบโตช้า

หลักๆเป็น ธุรกิจเติบโตช้า หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่อิ่มตัว รายได้คงที่ หรือเพิ่มขึ้นต่ำกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ จ่ายปันผลดีและสม่ำเสมอ 5% – 10% หุ้นประเภทนี้ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่หวังส่วนต่างราคา

2. หุ้นแข็งแกร่ง

จะเป็นหุ้นของกิจการที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ซึ่งจะสะท้อนไปยังงบการเงินที่ดี ทนต่อภาวะเศรษฐกิจ มีกำไรต่อหุ้นเติบโตประมาณปีละ 10% ปีเตอร์ ลินซ์หวังส่วนต่างราคาจากหุ้นประเภทนี้ประมาณ 30% – 50% หากเทียบในตลาดบ้านเรา สามารถหาหุ้นกลุ่มนี้ได้จาก SET50 SET100

3. หุ้นโตเร็ว

ลักษณะเด่นๆ ของหุ้นกลุ่มนี้คือมีการเติบโตปีละ 20% – 25% หรือมีการเติบโตของกำไรต่อหุ้นอย่างก้าวกระโดด ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดเล็ก หากเพื่อนๆนักลงทุนอยากมีกำไรหลายๆ เด้งหุ้นกลุ่มนี้จะตอบโจทย์ บริษัทเติบโตเร็วไม่จำเป็นต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่โตเร็ว ข้อควรระวังหากหุ้นที่เพื่อนๆ ซื้อหุ้นกลุ่มนี้ที่ราคาแพงเกินไป หากไม่เติบโตเป็นไปตามคาดก็ทำให้ขาดทุนเยอะได้เหมือนกัน หุ้นกลุ่มนี้สามารถหาได้จากตลาด MAI เป็นส่วนใหญ่

4. หุ้นวัฏจักร

เป็นหุ้นที่มีการเติบโตขึ้นลงตามปัจจัยภายนอกเป็นส่วนใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน ถ่านหิน ราคาหมู ราคาไก่ รายได้ กำไร จะสลับขึ้นๆ ลงๆ แต่หากทายถูกทางว่าจะมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นมาก ก็สามารถได้กำไรส่วนต่างราคาที่มาก อย่าง เช่น หุ้นกลุ่มเรือ กลุ่มเหล็ก ที่ผ่านมาราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ในทางตรงกันข้ามหากคาดการณ์ผิดก็ทำให้ขาดทุนเยอะได้เช่นกัน ปีเตอร์ ลินซ์ แนะนำว่าต้องสามารถตรวจหาสัญญาณการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

5. หุ้นฟื้นตัว

หุ้นกลุ่มนี้มักเป็นหุ้นที่ธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนหนัก หรือเกือบล้มละลาย และมีแนวโน้มว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นดีได้ ก็สามารถทำให้นักลงสร้างผลตอบแทนได้มากเช่นเดียวกัน แต่ก็อย่าลืมหากธุรกิจไม่สามารถพลิกกลับมาได้เลย เงินของนักลงทุนนั่นอาจไปพร้อมกับกิจการเลยก็เป็นได้

6. หุ้นทรัพย์สินมาก

หุ้นกลุ่มนี้ เป็นกิจการที่ถือครองทรัพย์สินที่มีมูลค่ามาก แต่ตลาดยังมองไม่เห็น เช่นมีที่ดินเยอะ ทำเลดี หรือมีเงินสดในบริษัทเยอะ อัตราส่วนที่ใช้วิเคราะห์เบื้องต้น จะเน้นการหาราคาต้นทุนของทรัพย์สินต่างๆ ที่บริษัทถือครองอยู่เทียบกับราคาตลาด ณ ปัจจุบัน

ในการนำไปพิจารณา หากหุ้นที่เรากำลังพิจารณา ปัจจุบันเป็นหุ้นกลุ่มโตเร็ว ไม่ได้แปลว่าจะเป็นหุ้นเติบโตเร็วเสมอไป เมื่อผ่านช่วงที่ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วแล้ว อาจกลายเป็นหุ้นแข็งแกร่งก็เป็นได้ เช่น 7-Eleven เมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบัน การเติบโตของธุรกิจต่างกันอย่างชัดเจน

หากเพื่อนๆ เริ่มศึกษา Mr.LikeStock ขอแนะนำเริ่มจากหุ้นแข็งแกร่งก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเยอะ หากฝึกฝนและพัฒนาเรื่อยๆ เป้าหมายการลงทุนก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

? แอด Line มีของแจก ฟรี!!!

Line id : @MrStock

? Line : https://MrStock.me/line( คลิก ที่ลิ้งก์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)

? คอร์ส หุ้น vi มือใหม่ ง่ายกว่าอ่านเอง รับประกัน ???

✅https://MrStock.me/vi/