หุ้นน้องใหม่อย่าง KISS ยังน่าสนใจอยู่ไหม ไปดูกัน
ช่วงนี้จะเห็นหุ้นน้องใหม่ที่พึ่งเข้าตลาดมาในเดือนก่อนอย่าง หุ้น KISS หรือ โรจูคิส เป็นหุ้นที่กำลังได้รับความนิยมกันอยู่ตอนนี้ อยากทราบกันไหมคะ ว่าบริษัททำอะไร ทำไมวันนี้ถึงนำมาเขียนเป็นบทความ และด้านความถูก-แพงของหุ้นตอนนี้ยังคงน่าสนใจอยู่ไหม วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงโครงสร้างทางธุรกิจกันค่ะ
บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น KISS ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้แบรนด์ Rojukiss และ Sis2Sis
สัดส่วนรายได้ของแต่ละผลิตภัณฑ์
Skincare 84 %
Make Up 12 %
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 4 %
ช่องทางการจัดจำหน่าย
Modern Trade (Lotus’s, BigC, Tops, The Mall และFamily Mart) 24%
7-Eleven 52%
General Trade ร้านโชว์ห่วย ร้าน Supermarket ท้องถิ่น 13%
ต่างประเทศ คือ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ 10%
E-Commerce ทั้ง Web ตัวเอง,Lazada และShopee 1%
สินค้าที่ได้รับความนิยม
Rojukiss Acne Spotless Serum ที่มียอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสิว ราคาขายอยู่ที่ซองละ 39 บาท
Rojukiss Perfect Poreless Serum ยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคุมความมันและรูขุมขน ราคาขายอยู่ที่ซองละ 39 บาท
Rojukiss White Poreless Serum ผลิตภัณฑ์เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใสที่มียอดขายอันดับ 1 ในร้านสะดวกซื้อของประเทศไทย ราคาขายอยู่ที่ซองละ 49 บาท
Rojukiss Eye for Face Cream กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในช่องทางร้านสะดวกซื้อ ราคาขายอยู่ที่ซองละ 49 บาท
งบการเงิน KISS หรือ โรจูคิส
ปี 2560 รายได้ 593 ล้านบาท กำไรสุทธิ 58 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 10%
ปี 2561 รายได้ 863 ล้านบาท กำไรสุทธิ 106 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 12%
ปี 2562 รายได้ 1,138 ล้านบาท กำไรสุทธิ 190 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 17%
ปี 2563 รายได้ 965 ล้านบาท กำไรสุทธิ 168 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 17%
ประเด็นที่น่าติดตาม
1.บริษัท โรจูคิสฯ Rojukiss เป็นบริษัท Top 5 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าของผู้หญิงและมีส่วนแบ่งการตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง
2.เป็นบริษัทจ้างผลิตสินค้า 100% ทำให้มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีต้นทุนคงที่ที่ต้องแบกรับต่ำ การที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ หรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทำได้ง่ายกว่าการมีโรงงานเป็นของตัวเอง
3.มีการขยายช่องทางใหม่ในตลาดต่างประเทศ โดยจะเน้นไปที่ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและเครื่องสำอาง นั้นยังมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ
4.มีพันธมิตรผู้ผลิตทั้งในเกาหลีใต้ ไทย และอินโดนีเซีย โดยหนึ่งในพันธมิตรหลักที่เกาหลีใต้นั้นเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเครื่องสำอางระดับโลกที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเกาหลีใต้
5.ร่วมมือกับ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปี 2564 โดย KISS ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เพื่อตลาด Online เป็น Direct to Consumer หรือการพัฒนานวัตกรรมสินค้า และช่องทางการจำหน่ายตรงไปยังผู้บริโภค
6.ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 โดยนำเทคโนโลยีด้านความงามเพื่อสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกในพฤติกรรมของผู้บริโภค และนำไปต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
7.นวัตกรรม Mobile Skin Analysis จะพัฒนาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เครื่องมือวิเคราะห์สภาพผิว เข้ามาช่วยผลักดันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันที ผ่านการเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce
ความถูก-แพงเทียบอุตสาหกรรม
Kiss ยอดขาย 964.98 ล้านบาท Market cap 9,900 ล้านบาท P/E 58.93 P/BV N/A
DDD ยอดขาย 1,590.28 ล้านบาท Market cap 6,993.53 ล้านบาท P/E 41.32 P/BV 1.48
KAMART ยอดขาย 1,326.21 ล้านบาท Market cap 3,819.19 ล้านบาท P/E 28.75 P/BV 3.82
BEAUTY ยอดขาย 786.83 ล้านบาท Market cap 5,382.29 ล้านบาท P/E N/A P/BV 6.32
หมายเหตุ ข้อมูลจากวันที่ 21/03/2564
*บทความนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำหุ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่การแชร์มุมมองจากข้อเท็จจริงเท่านั้นนักลงทุนโปรดใช้วิจารณญาณ
แอด Line มีของแจก ฟรี!!!
Line id : @MrStock
? Line : https://MrStock.me/line/
( คลิก ที่ลิ้งค์เพื่อแอดเพื่อนได้เลย)
ที่มา https://www.longtunman.com/tag/kiss
Admin:Tanyanan