สรุปผลการดำเนินงาน แบบ F45-1, F45-2, F45-3 ต่างกันอย่างไร ?
งบการเงิน ที่ประกาศจะมี สรุปผลการดำเนินงาน มาให้เราดูเบื้องต้นว่า กำไร เป็นเท่าไหร่บ้าง ?
แต่เคยสงสัยหรือไม่ครับว่า F45-1, F45-2, F45-3 แต่ละแบบต่างกันอย่างไร
F45-1 คือ บริษัทที่มีแต่ งบการเงินเฉพาะ
F45-2 คือ บริษัทที่มี บริษัทร่วม ด้วย
F45-3 คือ บริษัทที่จัดทำ งบการเงินรวม (มีบริษัทย่อยด้วย)
แล้วแต่ละบริษัทคืออะไร ?
ปกติแต่ละบริษัทจะมีงบการเงินของตัวเองเรียกว่า งบการเงินเฉพาะกิจการ โดยเบื้องต้นผมจะเรียกว่า บริษัทแม่ ก่อน (จะได้เข้าใจง่ายๆ)
แล้วก็จะมี บริษัทลูก (เพื่อให้เข้าใจง่ายขอเรียกว่า บริษัทลูก ก่อน) แต่บริษัทลูกนั้นจะมีด้วยการ 3 ระดับ ตามสัดส่วนที่
บริษัทแม่ไปถือว่ามีนัยยะสำคัญมากน้อยแค่ไหน หรือ พูดง่ายๆ คือ บริษัทแม่ไปถือบริษัทลูกมากหรือน้อย ก็จะลงงบต่างกัน
มาดูลักษณะบริษัทลูกๆ กัน
ลูกแบบที่ 1 เรียกว่า เงินลงทุน
บริษัทแม่ หากมีเงินเหลืออยู่ก็อาจจะไปลงทุนในบริษัทอื่นคล้ายๆ กับที่เราไปซื้อหุ้นบริษัทอื่น ถือในสัดส่วนไม่เยอะมาก
ดังนั้นใน งบการเงิน จะแสดงแต่ผลประโยชน์ที่ได้จากการไปลงทุน เช่น เงินปันผล
แต่จะไม่ทราบถึงผลประกอบการของเงินลงทุนนี้ (แบบนี้จะเรียกว่าบริษัทลูกก็ไม่ถูกมากนักนะครับ เพราะเราไปถือหุ้นเค้าไม่ได้มีสัดส่วนมาก)
เงินลงทุนแบบนี้จะเป็นแบบ F45-1 (งบเฉพาะกิจการ)
หรือหากมีแต่บริษัทแม่เพียงอย่างเดียว ก็แสดงแบบนี้
ลูกแบบที่ 2 เรียกว่า บริษัทร่วม
บริษัทร่วม คือ บริษัทที่บริษัทแม่ไปถือหุ้นหรือร่วมลงทุนในสัดส่วนที่เยอะขึ้นกว่าแบบแรก อาจจะสัก 20-50% ในบริษัทลูก
มีอำนาจในการบริหารและโหวตต่างๆ มากขึ้น หรือภาษาชาวบ้านคือ มีปากมีเสียงมากขึ้น
แต่บริษัทแม่ก็ไม่ได้มีอำนาจทั้งหมดในการบริหารเพราะถือไม่เกินครึ่ง
ในงบการเงินจะแสดงเป็น งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย (ชื่อยาวนิดนึง)
แล้วคืออะไร งบแบบนี้คือเราจะเห็นผลการดำเนินงานในบริษัทลูกด้วย
เพราะบริษัทแม่ถือเริ่มมีนัยยะสำคัญดังนั้นใน งบการเงิน จึงขอนำมาแสดงด้วยบางส่วน
คือจะแสดง เฉพาะผลกำไรที่บริษัทร่วมทำได้ แล้วแบ่งเปอร์เซ็นมาตามที่บริษัทแม่ไปถือ
เช่น สมมติบริษัทแม่ถือบริษัทร่วม 40% บริษัทร่วมทำกำไรได้ 10 ล้านบาท ก็จะแสดงให้เห็นในงบ 4 ล้านบาทเข้ามาเพิ่มจากผลกำไรที่บริษัทแม่ทำได้
แต่หากบริษัทลูกขาดทุนก็ต้องนำมารวมด้วยเช่นกัน
หากมีบริษัทร่วมด้วยจะแสดงเป็น F45-2
ลูกแบบที่ 3 เรียกว่า บริษัทย่อย
ชื่อต่างกับแบบที่ 2 นะครับ บริษัทย่อย คือ บริษัทที่แม่ไปถือในสัดส่วนที่ค่อนข้างเยอะ ประมาณ 50% – 100%
ดังนั้นถือว่าบริษัทลูกแบบนี้แม่มีส่วนในการบริหารจัดการค่อนข้างมาก
หรือ อาจจะเป็นบริษัทที่บริษัทแม่ตั้งใจตั้งขึ้นมาเองเพื่อแยกแต่ละกลุ่มธุรกิจ ให้ชัดเจนขึ้น
ในงบการเงินจะแสดงเป็น งบการเงินรวม
หลักการของงบการเงินรวมแบบง่ายๆคือ การนำงบของบริษัทแม่และบริษัทลูก (บริษัทย่อย) มากองรวมกัน
ตั้งแต่บรรทัดแรกเลย รายได้ ค่าใช้จ่าย สินทรัพย์ หนี้สิน รวมกัน แต่ตัดรายการระหว่างกันออก
เช่น บริษัทแม่ซื้อขายกันกับบริษัทลูก เพื่อแสดงเฉพาะรายการที่ขายออกไปนอกกลุ่มจริงๆ
แต่หากบริษัทแม่ไม่ได้ถือบริษัทย่อย 100% จะแยกสัดส่วนที่ไม่ใช่ของบริษัทแม่ออก ลองศึกษาเพิ่มเติมจากที่นี่ครับ
หากมีบริษัทย่อยด้วยจะแสดงเป็น F45-3 (คือ งบรวม) ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้
แต่ทั้ง F45-3 และ F45-3 ก็จะมีงบการเงินเฉพาะกิจการ (งบเฉพาะบริษัทแม่ให้ดู)
แล้วเราควรดูงบไหนดี ?
โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะดูงบรวม และเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำข้อมูลงบมาแสดงก็เป็นงบรวมทั้งสิ้น
เพื่อให้เห็นภาพรวมของกลุ่มกิจการรวมถึงบริษัทลูกๆ ที่บริษัทแม่ไปถือหุ้นด้วย
แต่หากอยากดูเฉพาะบริษัทแม่ ก็ควรดูงบการเงินเฉพาะกิจการด้วยครับ
คราวนี้คงพอทราบแล้วนะครับว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไร
ถือว่าเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยเสริมเพิ่มเติมในการอ่านงบการเงินนะครับ
สนใจศึกษาวิธการอ่าน งบการเงิน เพิ่มเติม
สรุปสั้นๆ อ่านงบการเงิน 3 งบหลัก
ประกอบด้วย
1 งบแสดงฐานะการเงิน
2 งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ
3 งบกระแสเงินสด
ฉบับกระชับเข้าใจง่าย ประหยัดเวลาเรียนรู้ ใช้เวลาไม่นาน
คลิปสอนอ่านงบการเงินแบบเข้าใจง่าย (ฟรี)
http://www.MrLikeStock.com/clip/
==========================
สนใจเข้าร่วมสัมมนากับ Mr.LikeStock
สัมมนาอ่านงบการเงิน และ การประเมินมูลค่าหุ้น
http://www.MrLikeStock.com/seminar/
Line id : MrLikeStock
หรือโทร : 088-555-3245
ขอบคุณครับ
Mr.LikeStock